ว่าด้วยเรื่อง AI หรือปัญญาประดิษฐ์ ข้าว่าเอ็งน่าจะได้ยินคำนี้กันจนคุ้นหูแล้วใช่มั้ย? แต่เอ็งรู้มั้ยว่า AI มันไม่ได้มีแค่ประเภทเดียวเหมือนที่คนทั่วไปเข้าใจกัน ข้าจะเล่าให้ฟังง่ายๆ ว่ามันมีความหลากหลายยังไงบ้าง และแต่ละประเภทต่างกันยังไง
AI ไม่ได้มีแค่แบบเดียว
คนส่วนใหญ่มักนึกถึง AI เป็นหุ่นยนต์ที่เดินพูดได้ หรือโปรแกรมที่ฉลาดจนตอบคำถามแทนคนได้ทุกอย่าง แต่จริงๆ แล้ว AI มีการแบ่งประเภทหลายแบบ ข้าจะเล่าให้ฟังทีละแบบ เอ็งจะได้เห็นภาพชัดขึ้น
1. AI ตามความสามารถ (Based on Capabilities)
การแบ่ง AI แบบนี้จะดูว่ามันมีความสามารถมากน้อยแค่ไหน ข้าแบ่งออกได้ 3 ประเภทใหญ่ๆ นะ
1.1 Artificial Narrow Intelligence (ANI) หรือ AI เฉพาะทาง นี่คือ AI ที่เก่งในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง เช่น โปรแกรมแปลภาษา ระบบแนะนำสินค้า หรือ AI ที่เล่นหมากรุก มันทำงานในขอบเขตที่ถูกกำหนดไว้ แต่ถ้าให้มันทำเรื่องอื่น มันก็ไปไม่เป็น
1.2 Artificial General Intelligence (AGI) หรือ AI ที่เก่งเหมือนมนุษย์ เอ็งลองจินตนาการ AI ที่สามารถคิด วิเคราะห์ และแก้ปัญหาได้เหมือนคน AGI ยังเป็นเป้าหมายที่เรายังไปไม่ถึงในตอนนี้ แต่นักวิจัยทั่วโลกกำลังพยายามพัฒนาให้มันเกิดขึ้น
1.3 Artificial Super Intelligence (ASI) หรือ AI ที่เก่งกว่ามนุษย์ ASI เป็นการจินตนาการว่า AI ในอนาคตอาจจะเก่งกว่าคนในทุกๆ ด้าน ทั้งความคิดสร้างสรรค์ การตัดสินใจ หรือแม้แต่การแก้ปัญหาที่ซับซ้อนสุดๆ แต่อย่าพึ่งตกใจนะ เพราะมันยังเป็นเพียงแนวคิดในตอนนี้
2. AI ตามวิธีการทำงาน (Based on Functionalities)
การแบ่งประเภทแบบนี้ จะดูว่า AI ทำงานอย่างไร หรือมันมีหน้าที่อะไร ข้าจะเล่าให้เอ็งเข้าใจง่ายๆ
2.1 Reactive Machines นี่คือ AI ที่ตอบสนองต่อสถานการณ์เฉพาะหน้า เช่น AI ที่เล่นเกมหมากรุก มันรู้แค่ว่าตอนนี้ต้องเดินหมากไปทางไหนให้ชนะ แต่มันไม่สามารถเรียนรู้จากประสบการณ์หรือเก็บข้อมูลไว้ได้
2.2 Limited Memory AI ประเภทนี้สามารถเก็บข้อมูลบางอย่างไว้ได้ชั่วคราว เช่น ระบบรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ มันจดจำการเคลื่อนไหวของรถรอบข้าง และใช้ข้อมูลนี้ในการตัดสินใจขับรถอย่างปลอดภัย
2.3 Theory of Mind ข้านี่ค่อนข้างตื่นเต้นเมื่อพูดถึง AI ประเภทนี้ เพราะมันคือ AI ที่สามารถเข้าใจอารมณ์ ความรู้สึก และความตั้งใจของคน มันเหมือนเป็นผู้ช่วยที่รู้ใจเรา เช่น AI ที่ช่วยคนพิการสื่อสาร หรือช่วยเด็กพัฒนาทักษะการเรียนรู้
2.4 Self-aware AI นี่คือระดับที่ AI มีความรู้ตัวเอง มันรู้ว่าตัวเองเป็นใคร และสามารถคิดวิเคราะห์อย่างลึกซึ้ง เช่น การตัดสินใจในเรื่องจริยธรรม หรือการแก้ปัญหาที่ซับซ้อนสูงสุด แต่บอกเลยว่าปัจจุบันยังไม่มี Self-aware AI จริงๆ
3. AI ตามเทคโนโลยี (Based on Technology)
ถ้าเอ็งอยากรู้ว่า AI ถูกสร้างขึ้นมาอย่างไร ข้าจะเล่าให้ฟังว่ามันมีเทคโนโลยีอะไรบ้าง
3.1 Machine Learning (ML) นี่คือวิธีที่ทำให้ AI เรียนรู้จากข้อมูล ตัวอย่างง่ายๆ คือ ถ้าเอ็งให้ AI ดูรูปแอปเปิ้ลพันๆ รูป มันก็จะรู้ว่าแอปเปิ้ลหน้าตาเป็นยังไง และสามารถแยกแยะได้เองว่าอันไหนคือแอปเปิ้ล อันไหนไม่ใช่
3.2 Deep Learning ถ้าบอกว่า Machine Learning คือการเรียนรู้พื้นฐาน Deep Learning ก็คือการเรียนรู้ขั้นสูงขึ้นไปอีก มันเหมือนกับสมองของมนุษย์ที่มีเครือข่ายซับซ้อน ทำให้ AI เข้าใจข้อมูลที่ซับซ้อน เช่น การจดจำใบหน้า การแปลภาษา หรือแม้แต่การสร้างภาพและเสียงใหม่ๆ
3.3 Natural Language Processing (NLP) AI ที่เก่งเรื่องภาษา มันช่วยให้เอ็งพูดคุยกับ AI ได้เหมือนคุยกับเพื่อน เช่น การใช้ Siri หรือ Google Assistant
3.4 Computer Vision นี่คือเทคโนโลยีที่ทำให้ AI เข้าใจภาพและวิดีโอ เช่น การวิเคราะห์ภาพทางการแพทย์ หรือการจดจำใบหน้าคนร้ายในกล้องวงจรปิด
AI ในชีวิตประจำวันของเอ็ง
ข้าว่าเอ็งคงอยากรู้ว่า AI แต่ละประเภทมันมีผลกับชีวิตประจำวันยังไง ข้าขอเล่าให้เอ็งฟังแบบง่ายๆ นะ
- ANI (AI เฉพาะทาง): เอ็งใช้มันทุกวัน เช่น ระบบแนะนำหนังใน Netflix หรือโฆษณาสินค้าที่เอ็งชอบ
- AGI (AI ทั่วไป): แม้ว่ายังไม่มี แต่ถ้าวันหนึ่งมันเกิดขึ้น เอ็งอาจได้ AI ผู้ช่วยที่สามารถช่วยแก้ปัญหาในชีวิตได้ทุกเรื่อง
- Machine Learning และ Deep Learning: มันช่วยให้แอปพลิเคชันที่เอ็งใช้งานอยู่ฉลาดขึ้นเรื่อยๆ เช่น การค้นหาข้อมูลใน Google ที่แม่นยำขึ้น
- NLP และ Computer Vision: ช่วยให้เอ็งพูดคุยกับ AI ได้สะดวก และช่วยให้กล้องโทรศัพท์ของเอ็งถ่ายภาพได้คมชัดขึ้น
สรุป
AI มีหลากหลายประเภทและแต่ละประเภทก็มีบทบาทแตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็น AI ที่เฉพาะทาง AGI ที่เก่งเหมือนมนุษย์ หรือเทคโนโลยีต่างๆ ที่ทำให้ AI ฉลาดขึ้นทุกวัน ข้าเล่าให้ฟังแบบง่ายๆ ก็เพื่อให้เอ็งเห็นภาพว่า AI มีความหลากหลายขนาดไหน
ข้าหวังว่าเรื่องนี้จะช่วยให้เอ็งเข้าใจ AI มากขึ้น แล้วถ้าเอ็งสนใจอยากเรียนรู้เพิ่มเติม ข้าแนะนำให้ลองเริ่มศึกษาเรื่อง Machine Learning และ Deep Learning ก่อน เพราะมันเป็นพื้นฐานสำคัญที่จะช่วยให้เอ็งเข้าใจโลกของ AI ได้อย่างลึกซึ้ง