ว่าด้วยเรื่อง AI เอ็งเคยสงสัยมั้ยว่ามันคืออะไรกันแน่? คำนี้ข้าบอกเลยว่ามันได้ยินกันเกลื่อน ไม่ว่าจะในข่าว หนัง หรือชีวิตประจำวัน แต่บางทีเอ็งอาจยังไม่เข้าใจว่ามันทำงานยังไง และมันจะส่งผลต่อชีวิตเอ็งยังไง ข้านี่แหละจะเล่าให้เอ็งฟังแบบง่ายๆ ไม่ต้องมีศัพท์วิชาการเยอะๆ เอ็งจะได้ไม่ต้องงงอีกต่อไป!
AI คืออะไร?
เอ็งลองนึกถึงหุ่นยนต์ในหนัง หรือโปรแกรมที่ตอบคำถามเอ็งได้แบบฉลาดๆ สิ นั่นแหละคือส่วนหนึ่งของ AI หรือชื่อเต็มๆ คือ Artificial Intelligence แปลเป็นไทยง่ายๆ ว่า “ปัญญาประดิษฐ์” หมายถึง การที่เครื่องจักรหรือคอมพิวเตอร์มันสามารถคิด วิเคราะห์ หรือทำงานเหมือนมนุษย์ได้
แต่อย่าสับสนระหว่าง AI กับหุ่นยนต์นะเว้ย AI คือซอฟต์แวร์ หรือสมองกล ส่วนหุ่นยนต์คือร่างกาย ทั้งสองอย่างนี้เอามารวมกันได้ เช่น หุ่นยนต์ที่มี AI เป็นตัวควบคุม อันนี้แหละคือของจริงเลย
AI ทำงานยังไง?
ขอเล่าให้เข้าใจง่ายๆ AI มันทำงานโดยการเรียนรู้ข้อมูลจำนวนมหาศาล สมมติเอ็งสอน AI ให้แยกแยะว่าอันไหนคือภาพแมว เอ็งก็ต้องให้มันดูภาพแมวนับพันๆ รูป มันก็จะเริ่มเรียนรู้ว่าแมวมีหน้าตายังไง ขนสีอะไร หูเป็นแบบไหน พอเอ็งใส่ภาพใหม่เข้าไป มันก็จะรู้ทันทีว่านั่นคือแมว
นี่คือสิ่งที่เรียกว่า Machine Learning หรือการเรียนรู้ของเครื่อง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ AI ที่ทำให้มันฉลาดขึ้นเรื่อยๆ ส่วนใหญ่จะต้องพึ่งพาข้อมูลเยอะๆ และการประมวลผลเร็วๆ
AI มีประเภทอะไรบ้าง?
เอ็งรู้มั้ยว่า AI มันไม่ได้มีแค่แบบเดียว มันมีหลากหลายประเภท ซึ่งแต่ละแบบก็ทำงานแตกต่างกันออกไป ข้าจะอธิบายให้เอ็งเข้าใจง่ายๆ
- Narrow AI (AI เฉพาะทาง) AI ประเภทนี้เก่งในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง เช่น โปรแกรมแปลภาษา หรือ AI ที่เล่นเกมอย่างหมากรุก มันทำได้ดีในเรื่องเดียว แต่ไม่สามารถทำอย่างอื่นได้
- General AI (AI อัจฉริยะทั่วไป) ถ้าวันหนึ่ง AI สามารถคิด วิเคราะห์ และแก้ปัญหาได้เหมือนมนุษย์ทุกประการ แบบนี้เรียกว่า General AI ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีใครสร้างได้สำเร็จ แต่กำลังอยู่ในขั้นพัฒนา
- Super AI (AI อัจฉริยะขั้นเทพ) นี่คือ AI ที่เก่งกว่ามนุษย์ในทุกๆ ด้าน ทั้งความคิดสร้างสรรค์ การแก้ปัญหา หรือแม้แต่การตัดสินใจ ขอบอกตรงๆ ว่ามันยังเป็นแค่จินตนาการอยู่ตอนนี้
AI อยู่รอบตัวเอ็งยังไงบ้าง?
ข้าบอกเลยว่า AI มันอยู่รอบตัวเอ็งมากกว่าที่เอ็งคิดนะ ไม่เชื่อใช่มั้ย? งั้นข้าจะยกตัวอย่างให้ดู
- AI ในสมาร์ทโฟน เอ็งใช้โทรศัพท์มั้ย? แน่นอนว่ามี AI อยู่ในนั้น เช่น Siri, Google Assistant หรือระบบปลดล็อกหน้าจอด้วยใบหน้า ทั้งหมดนี้คือ AI ล้วนๆ
- AI ในโซเชียลมีเดีย เคยมั้ยที่เปิด TikTok แล้วเจอวิดีโอที่ตรงใจ? หรือเลื่อน Facebook แล้วเจอโฆษณาที่เอ็งสนใจ นั่นเพราะ AI มันคอยวิเคราะห์พฤติกรรมของเอ็ง แล้วแนะนำสิ่งที่เหมาะกับเอ็ง
- AI ในธุรกิจ หลายบริษัทใช้ AI เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า ทำนายยอดขาย หรือแม้แต่แนะนำสินค้าที่ลูกค้าอาจสนใจ เช่น Amazon หรือ Lazada ที่เอ็งเคยซื้อของจากมัน
- AI ในรถยนต์ รถยนต์ยุคใหม่ เช่น Tesla ก็มี AI เป็นตัวควบคุมระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ มันทำให้การเดินทางปลอดภัยและสะดวกสบายขึ้น
AI มีข้อดีและข้อเสียอะไรบ้าง?
ข้ารู้ว่าเอ็งคงอยากรู้ว่า AI มันมีดีหรือไม่ดี ข้าจะเล่าแบบตรงไปตรงมาเลย
ข้อดี:
- ช่วยงานที่ซับซ้อน เช่น การวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมากในเวลาอันสั้น
- เพิ่มความสะดวกสบาย เช่น ระบบช่วยเหลือในสมาร์ทโฟน
- ลดต้นทุนธุรกิจ เพราะ AI ทำงานได้เร็วและไม่เหนื่อยเหมือนคน
ข้อเสีย:
- อาจแทนที่แรงงานคน บางงานอาจถูกแทนที่ด้วย AI เช่น งานที่ใช้แรงงานซ้ำๆ
- ความเป็นส่วนตัว เพราะ AI ต้องเก็บข้อมูลส่วนตัวของเอ็งเพื่อทำงานให้ดี
- ความเสี่ยงจากข้อผิดพลาด หาก AI ทำงานผิดพลาด ผลลัพธ์อาจส่งผลกระทบใหญ่หลวง
สรุป
AI ไม่ได้เป็นเรื่องที่น่ากลัว แต่มันคือเทคโนโลยีที่ช่วยให้ชีวิตของเราง่ายขึ้น ถ้าเอ็งเข้าใจและใช้งานมันอย่างถูกต้อง มันจะเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์มหาศาล
ข้าหวังว่าบทความนี้จะช่วยให้เอ็งเข้าใจว่า “AI คืออะไร” มากขึ้นนะ และถ้าเอ็งอยากติดตามเรื่องราวใหม่ๆ เกี่ยวกับ AI ข้าจะมาเล่าให้ฟังอีกแน่นอน โลกมันเปลี่ยนไปทุกวัน เอ็งอย่าลืมตามให้ทันล่ะ!